นับจำนวนผู้เข้าชม(counter

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤฎิ์ราชวรมหาวิหาร


วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤฎิ์ราชวรมหาวิหาร

วัดสำคัญอีกวัดหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้วนัก ก็คือ บวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤฎิ์ราชวรมหาวิหาร มีใครทราบบ้างว่าวัดนี้มีความสำคัญและประวัติความเป็นมาอย่างไร มาศึกษาประวัติของวัดนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยดีไหมวัดนี้เป็นวัดโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเดิมว่า “ วัดสลัก ” เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีและสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นนั้น วัดสลักตั้งอยู่กลางระหว่างพระบรมมหาราชวังบวรสถานมงคล ( ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และโรงละครแห่งชาติ ) สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้บูรณปฎิสังขรณ์วัดนี้ไปพร้อม ๆ กับการสร้างพระราชวังบวรสถานมงคลและทรงเปลี่ยนชื่อเป็น “ วัดนิพพานาราม ”
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบริจาคพระราชทรัพย์ในส่วนของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศให้เป็นค่าใช้สอยในการบูรณะวัดแห่งนี้ และโปรดให้เปลี่ยนนามใหม่เป็น “ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ ทราบประวัติความเป็นมาของวัดกันดีแล้วเรามาชมสิ่งสำคัญในวัดกันต่อดีกว่า พระมณฑป ตั้งอยู่ทางด้านหน้าของพระอุโบสถและพระวิหาร มีลักษระองสถาปัตยกรรมแบบไทย ภายในพระมณฑปเป็นที่ประดิษฐานมณฑปยอดปราสาท ซึ่งมี พระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุประดิษฐานอยู่ ส่วนบนของพระเจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนใต้ฐานพระเจดีย์บรรจุพระอัฐิพระบรมชนกนาถ (พ่อ) ของพระบาทสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท
พระอุโบสถ ตั้งอยู่หลังพระมณฑป เป็นอาคารทรงไทยฐานสูงหลังคามุงกระเบี้ยงเคลือบสีหน้าบันทำจากไม้แกะสลักปิดทองประดับกระจกพระประธานภายในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย รอบ ๆ พระประธานมีรูปพระอรหันต์ ๘ องค์ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี ทั้งพระประธานและพระอรหันต์นี้ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้สร้างขึ้นพระวิหาร เป็นอาคารทรงไทยฐานสูง ตั้งอยู่คู่กับพระอุโบสถ หน้าบันของพระวิหารทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นรูปตราพระราชลัญจกรในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศพระประธานภายในพระวิหารเป็นพระพุทธรูปก่ออิฐ ปางมารวิชัย ซึ่งสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ผู้ทรงสถาปนาวัดมหาธาตุขึ้น พระบรมรูปนี้มีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริงอยู่ในท่าประทับยืน หันพระพักตร์ออกสู่สนามหลวง พระหัตถ์ทั้งสองยกพระแสงดาบในท่าจบเป็นพุทธบูชา และมีจารึกพระราชประวัติบนแผ่นหินอ่อนติดอยู่กับผนังกำแพงด้านขวาของพระบรมรูป
นอกจากนี้ วัดมหาธาตุยังเป็นที่ตั้งของ “ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ” ซึ่งเป็นสถานศึกษาชั้นอุดมศึกษาของพระสงฆ์ รัชกาลที่ ๕ ทรงสถาปนาขึ้น อาคารของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่เห็นในปัจจุบันสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นอาคารแบบไทยประยุกต์สูง ๓ ชั้นเห็นไหมว่า วัดมหาธาตุนี้เป็นวัดที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณเลยทีเดียว คือ เป็นทั้งที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชและของเจ้านายเมื่อทรงผนวชในสมัยรัชกาลต้น ๆ เคยเป็นสถานที่ทำสังคายนาพระไตรปิฎก สถานที่ตั้งพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพของเจ้านายเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสงฆ์ พระมหากษัตริย์ทุกรัชกาลในราชวงศ์จักรีจึงพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ตลอดมาจนปัจจุบัน ถ้าใครได้ผ่านมาทางสนามหลวงก็แวะเข้ามาชมสถานที่สำคัญแห่งนี้กันบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น